ประเทศแคนาดา
CanadaKanada
แคนาดา
ธงชาติ
ตราแผ่นดิน
คำขวัญ: ละติน: A Mari Usque Ad Mare("จากทะเลสู่ทะเล")
เพลงชาติ: O Canada
เมืองหลวง
ออตตาวา45°24′N 75°40′W / 45.4°N 75.667°W / 45.4; -75.667
เมืองใหญ่สุด
โทรอนโต
ภาษาราชการ
ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส
รัฐบาล
สหพันธรัฐราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
ประมุขผู้สำเร็จราชการนายกรัฐมนตรี
สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรมีชาแอล ชองสตีเฟน ฮาร์เปอร์
เอกราช
พ.ร.บ. บริติชนอร์ทอเมริกาบทกฎหมายเวสต์มินสเตอร์พ.ร.บ. แคนาดา
จาก สหราชอาณาจักร1 กรกฎาคม พ.ศ. 241011 ธันวาคม พ.ศ. 247417 เมษายน พ.ศ. 2525
เนื้อที่
-
ทั้งหมด
9,984,670 กม.² (ลำดับที่ 2)
-
พื้นน้ำ (%)
8.92 (891,163 km²)
ประชากร
-
ส.ค. 2549 ประมาณ
32,601,360 (อันดับที่ 36)
-
2544 สำรวจ
30,007,094
-
ความหนาแน่น
3.3/กม.² (อันดับที่ 219)
GDP (PPP)
2548 ประมาณ
-
รวม
1.105 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 11)
-
ต่อประชากร
34,273 ดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 7)
HDI (2548)
0.949 (สูง) (อันดับที่ 5)
สกุลเงิน
ดอลลาร์แคนาดา ($) (CAD)
เขตเวลา
(UTC-3.5 to -8)
-
ฤดูร้อน (DST)
(UTC-2.5 to -7)
รหัสอินเทอร์เน็ต
.ca
รหัสโทรศัพท์
+1
แคนาดา (อังกฤษ: Canada; ภาษาฝรั่งเศสออกเสียง /kanada/, /กานาดา/) เป็นประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ ติดกับสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีที่ตั้งอยู่ทางเหนือมากที่สุดของโลกและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ปัจจุบันแคนาดาใช้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยถือพระราชินีอลิซาเบธที่สองเป็นกษัตริย์ (หมายเหตุ: พระองค์เดียวกับของสหราชอาณาจักร แต่โดยรัฐธรรมนูญแล้วถือว่าเป็นคนละตำแหน่ง แม้จะเป็นบุคคลเดียวกัน โดยมงกุฎและบัลลังก์นั้นใช้คนละแบบ ไม่ได้ใช้ร่วมกัน)
ดินแดนที่เป็นประเทศแคนาดาในปัจจุบันในอดีตมีผู้อยู่อาศัยอยู่แล้วเป็นชนพื้นเมืองหลากหลายกลุ่ม เมื่อตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 15 นักสำรวจเดินทางชาวอังกฤษและฝรั่งเศสได้เข้ามาสำรวจ และต่อมาจึงมีการตั้งรกรากขึ้นบนแถบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ในปี ค.ศ.1763 ฝรั่งเศสได้ยอมสูญเสียอาณานิคมเกือบทั้งหมดในทวีปอเมริกาเหนือหลังจากสงครามเจ็ดปี ในปี ค.ศ.1867 มีการรวมตัวของอาณานิคมของอังกฤษ 3 แห่งขึ้น และประเทศแคนาดาก็ถือกำเนิดขึ้นในรูปแบบของเขตปกครองสหพันธรัฐ (federal dominion) ประกอบด้วย 4 มณฑล และนี่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเพิ่มจำนวนขึ้นของมณฑลและดินแดนต่างๆ และกระบวนการได้รับอำนาจปกครองตนเองจากสหราชอาณาจักร รัฐบัญญัติแห่งเวสต์มินสเตอร์ในปี ค.ศ.1931 ได้เพิ่มอำนาจปกครองตนเองและเป็นผลให้เกิดพระราชบัญญัติแคนาดาในปี ค.ศ.1982 ซึ่งมีผลให้แคนาดาตัดขาดจากการขึ้นตรงต่ออำนาจของรัฐสภาอังกฤษ
ประเทศแคนาดา ประกอบด้วยรัฐ 10 รัฐ และดินแดน 3 แห่ง และปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2ทรงเป็นพระประมุขสูงสุด แคนาดาเป็นประเทศที่ใช้ภาษาทางการ 2 ภาษาทั้งในระดับประเทศและในมณฑลนิวบรันสวิก ภาษาทางการ 2 ภาษานั้นคือ ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม แคนาดาเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเป็นประเทศอุตสาหกรรม มีเศรษฐกิจที่หลากหลาย ซึ่งพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และพึ่งพาการค้าขาย โดยเฉพาะกับสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่แคนาดามีความสัมพันธ์อันยาวนานและสลับซับซ้อน
ประวัติศาสตร์
ฝรั่งเศสได้เข้ายึดครองแคนาดาฝั่งตะวันออกในปี พ.ศ. 2077 (ค.ศ. 1534) และได้เริ่มตั้งถิ่นฐานในปี พ.ศ. 2147 (ค.ศ. 1604) ปัญหาความขัดแย้งระหว่างฝรั่งเศสกับอังกฤษเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2256 (ค.ศ. 1713) อันเนื่องจากเหตุผลด้านการประมงและการค้าขนสัตว์ ซึ่งในที่สุดดินแดนแคนาดาก็ตกเป็นของอังกฤษ
ปี พ.ศ. 2392 (ค.ศ. 1849) แคนาดาได้รับการยอมรับในสิทธิการปกครองตนเอง และต่อมาปี พ.ศ. 2410 (ค.ศ. 1867) ได้มีการจัดตั้ง อาณาจักรแคนาดา (Dominion of Canada) ในลักษณะของสหพันธรัฐซึ่งประกอบด้วยอัปเปอร์แคนาดา (Upper Canada) และ โลว์เออร์แคนาดา (Lower Canada) (ได้แก่ ออนแทรีโอ ควิเบก โนวาสโกเชีย และนิวบรันสวิกในปัจจุบัน) ซึ่งต่อมาได้ขยายออกไปทางภาคตะวันตกจนถึงมณฑลบริติชโคลัมเบีย
ปี พ.ศ. 2474 (ค.ศ. 1931) แคนาดาได้รับสถานะเป็นประเทศที่เท่าเทียมกับอังกฤษโดยมีกษัตริย์อังกฤษเป็นพระประมุข และต่อมาในปี พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949) มณฑลนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ ก็ได้เข้าร่วมเป็นรัฐที่สิบของแคนาดา
การแบ่งเขตการปกครอง
บทความหลัก : เขตการปกครองของแคนาดา
แคนาดาเป็นสหพันธรัฐที่ประกอบด้วย 10 รัฐ (provinces) และ 3 ดินแดน (territories) ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างรัฐกับดินแดนคือ รัฐของแคนาดาได้รับมอบอำนาจจากบทบัญญัติในกฎหมายรัฐธรรมนูญโดยตรง ขณะที่ดินแดนของแคนาดาจัดตั้งขึ้นโดยกฎหมายของสหพันธรัฐ ดังนั้น รัฐบาลสหพันธ์จึงมีอำนาจโดยตรงในการควบคุมดูแลดินแดน ส่วนรัฐบาลของรัฐนั้นจะมีอำนาจและสิทธิในการปกครองตนเองมากกว่า
รัฐและดินแดนของแคนาดามีรายชื่อดังต่อไปนี้
รัฐ
แอลเบอร์ตา
บริติชโคลัมเบีย
แมนิโทบา
นิวบรันสวิก
นิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์
โนวาสโกเชีย
ออนแทรีโอ
ปรินซ์เอ็ดเวิร์ดไอแลนด์
ควิเบก
ซัสแคตเชวัน
ดินแดน
นอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์
นูนาวุต
ยูคอน
ภูมิศาสตร์
ที่ตั้ง ทิศเหนือจรดมหาสมุทรอาร์กติก ทิศใต้จรดสหรัฐอเมริกา ทิศตะวันออกจรดมหาสมุทรแอตแลนติก ทิศตะวันตกจรดมหาสมุทรแปซิฟิก และรัฐอะแลสกาของสหรัฐอเมริกา
พื้นที่ 9,976,140 ตารางกิโลเมตร ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
เมืองหลวง กรุงออตตาวา
แคนาดาเป็นประเทศเดียวในกลุ่มจี 8 ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญเนื่องจากแคนาดาเป็นประเทศที่มีมาตรการการค้าที่เสรีและโปร่งใสมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก แคนาดาเป็นประเทศที่พึ่งพิงการค้ากับต่างประเทศเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนการค้าต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ถึงร้อยละ 45 สำหรับการส่งออก และร้อยละ 40 สำหรับการนำเข้า รูปแบบการค้าและการลงทุนของแคนาดาจะพึ่งพิงกับสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญที่สุดระหว่างกันทั้งการนำเข้าและการส่งออก อีกทั้งยังมีการจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement: NAFTA) ซึ่งยิ่งช่วยเสริมมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับระบบภาษีนำเข้าของแคนาดาประมาณ ร้อยละ 90 เสียภาษีในอัตราร้อยละ 0 อีกทั้งยังให้สิทธิพิเศษแก่สินค้าที่นำเข้าจากประเทศด้อยพัฒนา ยกเว้นในสินค้าประเภทนม สัตว์ปีกและไข่
ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ แก๊สธรรมชาติ ทองคำ ถ่านหิน เหล็ก นิกเกิล โพแทช ยูเรเนียม สังกะสี รวมทั้งป่าไม้
อุตสาหกรรมที่สำคัญของแคนาดา ได้แก่ อุตสาหกรรมป่าไม้ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การสื่อสารและคมนาคม เหมืองแร่ และพลังงาน
สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ สินแร่ เครื่องยนต์ รถยนต์ กระดาษ ไม้เนื้ออ่อน พลังงานปิโตรเลียมดิบ แก๊สธรรมชาติ ไฟฟ้า อะลูมิเนียม อุปกรณ์สื่อสาร ชิ้นส่วนอากาศยาน ระบบคอมพิวเตอร์
สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักร น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ เครื่องยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร
ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เม็กซิโก และเยอรมนี
ภาคการบริการเป็นภาคกิจการที่สำคัญที่สุดของแคนาดา คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของภาคเศรษฐกิจของประเทศ ธนาคารชั้นนำของแคนาดา 6 แห่ง เป็นหนึ่งใน 100 ธนาคารชั้นนำของโลก และมีสาขาอยู่ในต่างประเทศทั่วโลกกว่า 60 ประเทศ รวมถึงธนาคารโนวาสโกเชีย ซึ่งมีสาขาอยู่ในไทยด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม ทำให้แคนาดาสามารถพัฒนาความก้าวหน้าในภาคกิจการนี้เป็นอย่างมาก
เศรษฐกิจ
แคนาดาเป็นประเทศเดียวในกลุ่มจี 8 ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญเนื่องจากแคนาดาเป็นประเทศที่มีมาตรการการค้าที่เสรีและโปร่งใสมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก แคนาดาเป็นประเทศที่พึ่งพิงการค้ากับต่างประเทศเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนการค้าต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ถึงร้อยละ 45 สำหรับการส่งออก และร้อยละ 40 สำหรับการนำเข้า รูปแบบการค้าและการลงทุนของแคนาดาจะพึ่งพิงกับสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญที่สุดระหว่างกันทั้งการนำเข้าและการส่งออก อีกทั้งยังมีการจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement: NAFTA) ซึ่งยิ่งช่วยเสริมมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับระบบภาษีนำเข้าของแคนาดาประมาณ ร้อยละ 90 เสียภาษีในอัตราร้อยละ 0 อีกทั้งยังให้สิทธิพิเศษแก่สินค้าที่นำเข้าจากประเทศด้อยพัฒนา ยกเว้นในสินค้าประเภทนม สัตว์ปีกและไข่
ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ แก๊สธรรมชาติ ทองคำ ถ่านหิน เหล็ก นิกเกิล โพแทช ยูเรเนียม สังกะสี รวมทั้งป่าไม้
อุตสาหกรรมที่สำคัญของแคนาดา ได้แก่ อุตสาหกรรมป่าไม้ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การสื่อสารและคมนาคม เหมืองแร่ และพลังงาน
สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ สินแร่ เครื่องยนต์ รถยนต์ กระดาษ ไม้เนื้ออ่อน พลังงานปิโตรเลียมดิบ แก๊สธรรมชาติ ไฟฟ้า อะลูมิเนียม อุปกรณ์สื่อสาร ชิ้นส่วนอากาศยาน ระบบคอมพิวเตอร์
สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักร น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ เครื่องยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร
ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เม็กซิโก และเยอรมนี
ภาคการบริการเป็นภาคกิจการที่สำคัญที่สุดของแคนาดา คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของภาคเศรษฐกิจของประเทศ ธนาคารชั้นนำของแคนาดา 6 แห่ง เป็นหนึ่งใน 100 ธนาคารชั้นนำของโลก และมีสาขาอยู่ในต่างประเทศทั่วโลกกว่า 60 ประเทศ รวมถึงธนาคารโนวาสโกเชีย ซึ่งมีสาขาอยู่ในไทยด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม ทำให้แคนาดาสามารถพัฒนาความก้าวหน้าในภาคกิจการนี้เป็นอย่างมาก
ประชากร
จำนวนประชากร:32.601.360 ล้านคน (2551)
วัฒนธรรม
(รอเพิ่มเติมเนื้อหา)
สังคมของแคนาดาเป็นสังคมที่มีส่วนผสมของชนชาติต่าง ๆ มากมาย โดยชนชาติที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานมากที่สุด ระหว่างปี พ.ศ. 2534 - 2543 คือคนจากเอเชีย (จีน อินเดีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ อิหร่าน) ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 59.5 ของคนเข้าเมืองเพื่อตั้งถิ่นฐานในแคนาดา
โดยในปี พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962) รัฐสภาแคนาดาได้ออกกฎหมายคนเข้าเมืองตามข้อเสนอของพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้จนทุกวันนี้ สาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าวคือการยกเลิกการเลือกปฏิบัติ (ก่อนหน้านี้ มีการออกกฎหมายปี พ.ศ. 2430 (ค.ศ. 1887) เพื่อกีดกันการเข้าเมืองของคนจีน และต่อมาปี ค.ศ. 1910 ได้ออกกฎหมายที่ใช้หลักการแหล่งกำเนิด แบ่งเป็น preferred ซึ่งคือ กลุ่มคนยุโรป และ non-preferred ได้แก่ กลุ่มที่ไม่ใช่ยุโรป) กล่าวคือ การเปิดรับคนเข้าเมืองจากทุกที่อย่างเป็นทางการทั่วไป และการใช้วิธีการคิดคะแนนประเมินน้ำหนัก (point system) ว่าสมควรรับผู้ใดเข้าไปตั้งถิ่นฐานในแคนาดา ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า แคนาดามองเรื่องการรับคนเข้าไปตั้งถิ่นฐานอย่างเป็นการถาวร เพื่อเป็นฐานการเก็บภาษีให้แก่รัฐบาลกลางและรัฐบาลของรัฐ
ค่านิยมหลักของสังคมแคนาดาที่ฝังลึกในทุกคนคือ การส่งเสริมและเคารพในสิทธิและเสรีภาพของมนุษย์ ซึ่งเป็นหลักพื้นฐานสำคัญที่สุดของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สังคมแคนาดาจะสนใจอย่างยิ่งต่อพัฒนาการในประเทศที่มีระบอบการปกครองที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ศาสนา โรมันคาธอลิก (ร้อยละ 42) โปรแตสแตนท์ (ร้อยละ 40) อิสเทอร์นออโธดอกซ์ และยิว (ร้อยละ 18)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น