Delilah - Tom Jones
"Delilah" เพลงจากบทประพันธ์ของ Les Reed, เนื้อร้องโดย Barry Mason บันทึกเสียงร้องโดย Tom Jones เมื่อปี 1968.ได้ขึ้นถึงอันดับ 1 ของชาร์ตเพลงในหลายๆประเทศ เช่น เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ เป็นเพลงอันดับ 2 ในประเทศอังกฤษเมื่อเดือนมีนาคม 1968 มียอดขายสูงเป็นอันดับ 6 ในปีนั้น แต่ในสหรัฐอเมริกาขึ้นได้สูงสุดแค่อันดับ 15 ของ The US Billboard chart
มีศิลปินหลายคนนำมาร้องใหม่ หลากหลายรูปแบบ ทั้งในแนวเรกเก้ ของ Horace Andy,หรือจากวงร้อคแบนด์อย่าง Inkubus Sukkubus ในอัลบั้ม Wild จากวงพั้งค์สายเลือด The Irish American อย่าง Flogging Molly และศิลปินอีกหลายคนที่นำไป Cover ใหม่
หลังจากทอมโจนส์ นำไปร้องจนโด่งดัง ทำให้แฟนรักบี้ชาวเวลซ์เคยนำเพลงนี้ไปร้องในการแข่งขันที่สนาม Wembley Stadium ในปี 1999. มีฝูงชนร้องตามกันกระหึ่มสนาม หรือแฟนคลับของ Stoke City Football Club ก็เคยนำไปใช้เช่นกัน และกลายเป็นเพลงประกอบในหนังเรื่อง "Edward Scissorhands" เมื่อปี 1990
Delilah เป็นภาษาฮิบรู มีความหมายถึง อ่อนแอ ยากจน หรือน่าสงสาร ซึ่งชื่อนี้มีกล่าวถึงในพระคัมภีร์ไบเบิลของชาวฮิบรู หลายคนอาจจะรู้จักเดไลลาห์จากหนังโรมันที่เกี่ยวข้องกับความทรงพลังของแซมซั่น หรือภาพวาดที่มีชื่อเสียงของ เฟลมิชบาโรก ปีเตอร์พอลรู ที่ชื่อ แซมซันแอนด์เดไลลาห์
เดไลลาห์เป็นหญิงสาวชาวโรมัน เป็นฝ่ายศัตรูของแซมซั่น หนุ่มผู้มีพละกำลังตามความยาวของเส้นผม (ยิ่งยาวก็ยิ่งมีพลังมาก) แต่แซมซั่นหลงรักเดไลลาห์มากทั้งๆที่รู้ว่าเธอเป็นคนโรมัน และยังบอกความลับแก่เธอเรื่องพลังที่อยู่ในเส้นผม ทำให้เขาถูกเธอใช้เล่ห์มายาหญิงลักลอบตัดผมจนทำให้แซมซั่นโดนจองจำอย่างไร้พละกำลัง แม้ว่าสุดท้ายเขาจะทำลายพันธนาการที่จองจำได้ และทำลายทหารโรมัน รวมถึงเดไลลาห์คนรักผู้ทรยศ แต่ตัวเขาก็ต้องตาย ผู้คนส่วนใหญ่จึงรู้จักเดไลลาห์ในมาดของ"นังตัวร้าย"
เพลง Delilah มีเนื้อร้องเป็นแนว Drama ขับร้องโดย Tom Jones นักร้องชาวเวลส์ เมื่อปี 1968 ชื่อเพลง Delilah ทำให้แต่แรกหลงเดาไปว่า เป็นเพลงเกี่ยวกับ Delilah ที่เป็นหญิงคนรักของจอมพลัง Samson แต่ครั้นได้ฟังท่วงทำนองจังหวะ และเสียงร้องที่ค่อนข้างรุนแรงของเพลง ทั้งยังมีการกล่าวถึงมีด ฟังดูน่าหวาดเสียว ชวนให้อยากติดตามว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร
หญิงสาวที่ชื่อ Delilah ในเพลงนี้เธอสวมเขาให้คนรักเก่า (ซึ่งก็น่าจะเป็นสามี เพราะในเพลงบอกว่า She was my woman) เขาสุดจะทนเห็นภาพบาดตาบาดใจจากเงาไหวๆของเธอกับชายชู้ที่หน้าต่าง เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ชายชู้ขับรถออกไปแล้ว เขาจึงเข้าไปแทงเธอด้วยมีดที่ถืออยู่ในมือ เหมือนเรื่องรักหึงหวงในนิยายน้ำเน่าไม่มีผิดเลย!!! มีประโยคต่างๆที่น่าสนใจ และชวนให้จินตนาการตีความต่อเนื่องไปได้อีก เช่น At break of day when that man drove away, I was waiting. I cross the street to her house......(ผมคอยอยู่จนกระทั่งชายคนนั้นขับรถออกไปตอนรุ่งเช้า จึงข้ามถนนไปที่บ้านของเธอ)
หรืออาจเป็นไปได้ว่าเขาคงซุ่มรอดูอยู่ตลอดคืน จนเมื่อเห็นเธอเปิดประตูออกมาด้วยอารมณ์เบิกบาน(เพราะชายชู้เพิ่งจากไป) เขาจึงสุดจะระงับความโกรธแค้น จึงจ้วงแทงเธอ ตามที่เล่าในประโยคต่อไปว่า She stood there laughing.........I felt the knife in my hand and she laughed no more. (เธอกำลังยืนหัวเราะอยู่ตรงนั้น ผมแทงเธอและเธอไม่สามารถหัวเราะได้อีกต่อไป)
เธออาจจะหยุดหัวเราะเพราะตกตะลึงที่เห็นเขามาพร้อมมีดในมือ หรืออาจเป็นเพราะถูกแทง ส่วนจะตายหรือไม่นั้น เนื้อร้องไม่ได้บอกไว้ บอกแต่เพียงว่า เขาได้แต่ฟูมฟายพร่ำรำพัน ขออโหสิต่อเธอว่า Forgive me Delilah I just couldn't take any more.(อโหสิให้ผมเถิดนะ ดีไลลาห์ ผมไม่อาจทนได้อีกต่อไปแล้ว)
มีศิลปินหลายคนนำมาร้องใหม่ หลากหลายรูปแบบ ทั้งในแนวเรกเก้ ของ Horace Andy,หรือจากวงร้อคแบนด์อย่าง Inkubus Sukkubus ในอัลบั้ม Wild จากวงพั้งค์สายเลือด The Irish American อย่าง Flogging Molly และศิลปินอีกหลายคนที่นำไป Cover ใหม่
หลังจากทอมโจนส์ นำไปร้องจนโด่งดัง ทำให้แฟนรักบี้ชาวเวลซ์เคยนำเพลงนี้ไปร้องในการแข่งขันที่สนาม Wembley Stadium ในปี 1999. มีฝูงชนร้องตามกันกระหึ่มสนาม หรือแฟนคลับของ Stoke City Football Club ก็เคยนำไปใช้เช่นกัน และกลายเป็นเพลงประกอบในหนังเรื่อง "Edward Scissorhands" เมื่อปี 1990
Delilah เป็นภาษาฮิบรู มีความหมายถึง อ่อนแอ ยากจน หรือน่าสงสาร ซึ่งชื่อนี้มีกล่าวถึงในพระคัมภีร์ไบเบิลของชาวฮิบรู หลายคนอาจจะรู้จักเดไลลาห์จากหนังโรมันที่เกี่ยวข้องกับความทรงพลังของแซมซั่น หรือภาพวาดที่มีชื่อเสียงของ เฟลมิชบาโรก ปีเตอร์พอลรู ที่ชื่อ แซมซันแอนด์เดไลลาห์
เดไลลาห์เป็นหญิงสาวชาวโรมัน เป็นฝ่ายศัตรูของแซมซั่น หนุ่มผู้มีพละกำลังตามความยาวของเส้นผม (ยิ่งยาวก็ยิ่งมีพลังมาก) แต่แซมซั่นหลงรักเดไลลาห์มากทั้งๆที่รู้ว่าเธอเป็นคนโรมัน และยังบอกความลับแก่เธอเรื่องพลังที่อยู่ในเส้นผม ทำให้เขาถูกเธอใช้เล่ห์มายาหญิงลักลอบตัดผมจนทำให้แซมซั่นโดนจองจำอย่างไร้พละกำลัง แม้ว่าสุดท้ายเขาจะทำลายพันธนาการที่จองจำได้ และทำลายทหารโรมัน รวมถึงเดไลลาห์คนรักผู้ทรยศ แต่ตัวเขาก็ต้องตาย ผู้คนส่วนใหญ่จึงรู้จักเดไลลาห์ในมาดของ"นังตัวร้าย"
เพลง Delilah มีเนื้อร้องเป็นแนว Drama ขับร้องโดย Tom Jones นักร้องชาวเวลส์ เมื่อปี 1968 ชื่อเพลง Delilah ทำให้แต่แรกหลงเดาไปว่า เป็นเพลงเกี่ยวกับ Delilah ที่เป็นหญิงคนรักของจอมพลัง Samson แต่ครั้นได้ฟังท่วงทำนองจังหวะ และเสียงร้องที่ค่อนข้างรุนแรงของเพลง ทั้งยังมีการกล่าวถึงมีด ฟังดูน่าหวาดเสียว ชวนให้อยากติดตามว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร
หญิงสาวที่ชื่อ Delilah ในเพลงนี้เธอสวมเขาให้คนรักเก่า (ซึ่งก็น่าจะเป็นสามี เพราะในเพลงบอกว่า She was my woman) เขาสุดจะทนเห็นภาพบาดตาบาดใจจากเงาไหวๆของเธอกับชายชู้ที่หน้าต่าง เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ชายชู้ขับรถออกไปแล้ว เขาจึงเข้าไปแทงเธอด้วยมีดที่ถืออยู่ในมือ เหมือนเรื่องรักหึงหวงในนิยายน้ำเน่าไม่มีผิดเลย!!! มีประโยคต่างๆที่น่าสนใจ และชวนให้จินตนาการตีความต่อเนื่องไปได้อีก เช่น At break of day when that man drove away, I was waiting. I cross the street to her house......(ผมคอยอยู่จนกระทั่งชายคนนั้นขับรถออกไปตอนรุ่งเช้า จึงข้ามถนนไปที่บ้านของเธอ)
หรืออาจเป็นไปได้ว่าเขาคงซุ่มรอดูอยู่ตลอดคืน จนเมื่อเห็นเธอเปิดประตูออกมาด้วยอารมณ์เบิกบาน(เพราะชายชู้เพิ่งจากไป) เขาจึงสุดจะระงับความโกรธแค้น จึงจ้วงแทงเธอ ตามที่เล่าในประโยคต่อไปว่า She stood there laughing.........I felt the knife in my hand and she laughed no more. (เธอกำลังยืนหัวเราะอยู่ตรงนั้น ผมแทงเธอและเธอไม่สามารถหัวเราะได้อีกต่อไป)
เธออาจจะหยุดหัวเราะเพราะตกตะลึงที่เห็นเขามาพร้อมมีดในมือ หรืออาจเป็นเพราะถูกแทง ส่วนจะตายหรือไม่นั้น เนื้อร้องไม่ได้บอกไว้ บอกแต่เพียงว่า เขาได้แต่ฟูมฟายพร่ำรำพัน ขออโหสิต่อเธอว่า Forgive me Delilah I just couldn't take any more.(อโหสิให้ผมเถิดนะ ดีไลลาห์ ผมไม่อาจทนได้อีกต่อไปแล้ว)
Delilah - Tom Jones
I saw the light on the night that I passed by her window
I saw the flickering shadows of love on her blind
She was my woman
As she deceived me I watched and went out of my mind
My, my, my, delilah
Why, why, why, delilah
I could see that girl was no good for me
But I was lost like a slave that no man could free
At break of day when that man drove away, I was waiting
I cross the street to her house and she opened the door
She stood there laughing
I felt the knife in my hand and she laughed no more
My, my, my delilah
Why, why, why delilah
So before they come to break down the door
Forgive me delilah I just couldn’t take any more
[insert trumpet solo here]
She stood there laughing
I felt the knife in my hand and she laughed no more
My, my, my, delilah
Why, why, why, delilah
So before they come to break down the door
Forgive me delilah I just couldn’t take any more
Forgive me delilah I just couldn’t take any more
I saw the flickering shadows of love on her blind
She was my woman
As she deceived me I watched and went out of my mind
My, my, my, delilah
Why, why, why, delilah
I could see that girl was no good for me
But I was lost like a slave that no man could free
At break of day when that man drove away, I was waiting
I cross the street to her house and she opened the door
She stood there laughing
I felt the knife in my hand and she laughed no more
My, my, my delilah
Why, why, why delilah
So before they come to break down the door
Forgive me delilah I just couldn’t take any more
[insert trumpet solo here]
She stood there laughing
I felt the knife in my hand and she laughed no more
My, my, my, delilah
Why, why, why, delilah
So before they come to break down the door
Forgive me delilah I just couldn’t take any more
Forgive me delilah I just couldn’t take any more
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น