Bangkok, Thailand


วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2553

My Way - Frank Sinatra

My Way - Frank Sinatra


MY WAY เพลงป็อปยอดฮิตแห่งศตวรรษที่ 20 ที่ติดอันดับ 144 SONGS OF THE CENTURY อีกทั้งเป็นเพลงที่นิยมเปิดในพิธีศพในปัจจุบัน หลายคนอาจรู้ว่าเป็นเพลงที่ทำให้แฟรงก์ ซิเนตรา กลับคืนสู่วงการอีกครั้งในยุคปลายทศวรรษ 1960s หลังจากตกต่ำมาพักใหญ่

เรื่องราวของ MY WAY เริ่มจากปี ค.ศ. 1965 เมื่อทีมนักแต่งเพลงฝรั่งเศส กิลส์ ธิโบลต์ (GILLES THIBAULT) (คำร้อง) และจาคส์ ริโวส์ (JACQUES REVAUX) (ทำนอง) เขียนเพลงป็อปฝรั่งเศสเพลงหนึ่งชื่อ COMME D'HABITUDE แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า AS USUAL (เหมือนอย่างเคย) เนื้อเพลงไม่ได้มีความหมายลึกซึ้ง พูดถึงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่งมงายกับความรัก ลงท้ายต้องเจอกับความผิดหวัง เมื่อเขียนเสร็จธิโบลต์ส่งไปให้คลอด์ ฟรังซัวส์ (CLAUDE FRANCOIS) นักร้องป็อปฝรั่งเศส เพื่อพิจารณานำไปบันทึกเสียง คลอด์ ฟรังซัวส์ เพิ่งจะเลิกราความสัมพันธ์กับ FRANCE GALL นักร้องสาวชื่อดังอีกคนหนึ่ง เมื่ออ่านดูคำร้อง คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ชีวิตจริงที่กำลังดำเนินอยู่ จึงตกลงนำไปบันทึกเสียง กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตในฝรั่งเศส

ในปี ค.ศ. 1968 ขณะที่ พอล แองกา ไปตากอากาศที่ฝรั่งเศส เผอิญได้ยิน COMME D'HABITUDE เข้าทางวิทยุ เกิดติดใจในท่วงทำนองเพลง คิดว่าเหมาะกับแฟรงก์ ซิเนตรา มากที่สุด เมื่อกลับมาถึงอเมริกา พอลมีโอกาสพบกับแฟรงก์ที่ไมอามีขณะแฟรงก์ไปถ่ายทำภาพยนตร์ที่นั่น แฟรงก์เอ่ยปากกับพอลว่า เขากำลังจะรีไทร์ ช่วยแต่งเพลงให้สักเพลงเถอะ ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่แฟรงก์ ซิเนตรา อยู่ในปัจฉิมวัย ชื่อเสียงกำลังถดถอย

เมื่อพอลกลับมาถึงที่บ้านในนิวยอร์ก คืนหนึ่งเวลาราวตีหนึ่งครึ่ง ฝนตกพรำๆ ขณะนั่งอยู่หน้าเปียโน พอลนึกถึงคำพูดของแฟรงก์ที่พูดกับเขาที่ไมอามี คิดถึงเพลง COMME D'HABITUDE ที่ฝังใจครั้งไปเยือนฝรั่งเศส จากจินตนาการและพรสวรรค์ในตัว พอลค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์ชีวิตตัวเองและของแฟรงก์ ซิเนตรา เขียนออกมาเป็นเนื้อร้อง โดยเริ่มจาก AND NOW THE END IS NEAR พอถึงในราวตีห้า พอลก็แต่งเสร็จ ตั้งชื่อเพลงว่า MY WAY

พอล แองกา เคยให้สัมภาษณ์และอธิบายถึงข้อความบางตอนจากเนื้อเพลง อย่างเช่น I'VE LIVED A LIFE THAT'S FULL, I'VE TRAVELLED EACH AND EVERY HIGHWAY พอลกล่าวว่า มาจากเหตุการณ์ในชีวิตจริงช่วงวัยทีนเอจ เขามีโอกาสใช้ชีวิตคุ้มค่า เดินทางไปแสดงคอนเสิร์ตทุกมุมโลก มีแฟนสาวคลั่งไคล้ในตัวเขามากมาย มีโอกาสร่วมดื่ม รับประทานอาหารกับศิลปินมีชื่อนับไม่ถ้วน กัญชาก็เคยลองมาแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาสามารถบังคับจิตใจได้ว่า สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร

YES, THERE WERE TIMES, I'M SURE YOU KNEW, WHEN I BIT OFF MORE THAN I COULD CHEW. BUT THROUGH IT ALL WHEN THERE WAS DOUBT, I ATE IT UP AND SPIT IT OUT

ข้อความดังกล่าวเขียนจากบุคลิกและชีวิตจริงของแฟรงก์ ซิเนตรา ชีวิตแฟรงก์ สมัยหนึ่งเต็มไปด้วยความโอ่อ่า มีเพื่อนฝูงมาห้อมล้อมมากมาย แฟรงก์เป็นคนพูดจาค่อนข้างแข็ง ไม่แคร์ความรู้สึกของผู้อื่นเท่าไหร่ คนที่ไม่ชอบจึงมีมาก

I PLANNED EACH CHARTERED COURSE, EACH CAREFUL STEP ALONG THE BYWAY

ข้อความนี้เขียนจากชีวิตจริงของพอลเอง ซึ่งเป็นคนระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยและการลงทุน ปัจจุบันพอลเป็นหุ้นส่วนใหญ่ในทีมฮอกกี้ทีมหนึ่ง สะสมรูปภาพราคาแพง มีบริษัทลิขสิทธิ์เพลง และสะสมไวน์เก่า

THE RECORD SHOW I TOOK THE BLOWS

กล่าวถึงเหตุการณ์ในช่วงปี 1964 เมื่อดนตรีและเพลงของเดอะบีทเทิลส์ เข้ามามีอิทธิพล ความนิยมชมชอบในตัวของพอลและแฟรงก์ค่อยๆ หายไป

WHAT IS A MAN, WHAT HAS HE GOT, IF NOT HIMSELF THEN HE HAS NOT

พูดถึงการดำเนินชีวิตของตัวพอลเอง พอลเป็นตัวของตัวเอง ปฏิบัติสม่ำเสมอกับทุกคนด้วยดีตลอดมา

แฟรงก์ ซิเนตรา บันทึกเสียง MY WAY เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 1968 โดยมี ดอน คอสตา เป็นผู้ควบคุมวง ใช้เวลาบันทึกเสียงเพียง 2 เทค ในเวลาครึ่งชั่วโมงก็แล้วเสร็จ เมื่อ MY WAY วางจำหน่าย เปิดออกอากาศทางสถานีวิทยุทั่วประเทศ ได้รับความนิยมขึ้นถึงแค่อันดับ 27 ผิดกับในอังกฤษที่ขึ้นถึงอันดับ 5 จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปความนิยมในตัวเพลงยิ่งเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นเพลงสัญลักษณ์ประจำตัวแฟรงก์ ซิเนตรา ที่ทุกคนไม่อาจปฏิเสธได้.

My Way เป็นเพลงที่เล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งซึ่งใกล้จะสิ้นลม และมองย้อนกลับมาถึงชีวิตของตนเองแต่ครั้งในอดีต ผ่านให้เพื่อนของเขาที่นั่งอยู่ใกล้ๆฟัง เขาเคยมีชีวิตที่พรั่งพร้อม ถนนทุกสายเผชิญมาแล้ว ผ่านความรัก เสียงหัวเราะและเสียงร่ำไห้ จนมาบัดนี้รู้สึกขบขันกับอดีตที่ผ่านมา อยากบอกถึงความรู้สึกลึกๆในใจ ที่ได้ทำทุกอย่างตามอำเภอใจ

ต้นฉบับเพลงนี้เป็นเพลงฝรั่งเศส เนื้อร้องโดย ชิลส์ ติโบลต์ ทำนองดนตรีที่ร่วมกันแต่งโดย โกลด ฟรองซัวร์ กับ ชากส์ เรอโวซ จดลิขสิทธิ์ที่กรุงปารีส ปี 1967 สำหรับที่นำมาร้องกันจนปัจจุบันนี้นี้น พอล แองก้า แต่งเนื้อร้องภาษาอังกฤษ ให้ แฟรงค์ ซีนาตรา นำไปร้องอัดแผ่นเสียง 'รีไพรส์' ที่แฟรงค์เป็นเจ้าของบริษัทเอง ปรากฏว่าได้รับความนิยมมากกว่าเพลงอีกหลายเพลงที่
แฟรงค์ร้อง

เพลงนี้แพร่หลายมากจนมีเป็นคาราโอเกะทุกหนแห่ง เป็นที่ประทับใจของชาวมหาวิทยาลัยแมซซาจูเซ็ท ที่แม้กระทั่งวงโยธวาทิตของ the University of Massachusetts Amherst นำไปบรรเลง,

My Way แบบของใครไม่ฮิตเท่ากับ แฟรงค์ ซีนาตรา อดีตนักร้องนักแสดงที่มีแฟนมหาศาล เพลงนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเขา ไม่ว่าจะออกแสดงที่ไหน เมื่อใด My Way ต้องเป็นเพลงเอกของรายการ แค่ร้องท่อนแรกของเพลงเท่านั้น ผู้ชมผู้ฟังก็ฮือฮาด้วยความชื่นชม
ความยิ่งใหญ่ของแฟรงค์ไม่ธรรมดา การออกแสดงแต่ละครั้งมักจะจัดกันอย่างอลังการ มโหฬาร แม้กระทั่งบนถนน จะมีผู้คนสองฟากถนนยืนกันเต็มทางเท้าราวกับจะต้อนรับบุคคลสำคัญ




My Way - Frank Sinatra




And now, the end is near ;
ตอนนี้ จุดจบก็ใกล้เข้ามาทุกที

And so I face the final curtain.
ในที่สุดผมก็คงต้องพบกับฉากสุดท้าย

My friend, I’ll say it clear,
เพื่อนเอ๋ย ผมจะบอกกันชัดๆเลยนะ

I’ll state my case, of which I’m certain.
ผมจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดของผมให้ฟังกัน ซึ่งผมมั่นใจว่าคงไม่มีอะไรผิดพลาด

I’ve lived a life that’s full.
ชีวิตที่ผ่านมา ผมใช้มันอย่างเกินคุ้ม

I’ve traveled each and ev’ry highway;
ท่องไปในทุกหัวระแหง

And more, much more than this,
และที่สำคัญไปกว่านั้น

I did it my way.
ผมได้ใช้ชีวิต...ในแบบของผม


Regrets, I’ve had a few ;
ถ้าจะถามว่าผมเคยเสียใจไหม? ก็คงมีบ้าง....

But then again, too few to mention.
แต่มันก็น้อยเสียจนไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึง

I did what I had to do
ผมทำในสิ่งที่ผมต้องทำ

And saw it through without exemption.
ผมมองมันทะลุทุกอย่างแบบไม่มีข้อแม้ใดๆ

I planned each charted course ;
ทุกเส้นทางผมวางแผนไว้เป็นอย่างดี

Each careful step along the by way,
ทุกย่างก้าวผมไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง

But more, much more than this,
และยิ่งไปกว่านั้น

I did it my way.
ผมทำมันทั้งหมด...ในแบบของผม...

Yes, there were times, I’m sure you knew
ใช่ ผมแน่ใจว่าคุณรู้ว่ามีหลายครั้ง...

When I bit off more than I could chew. ...
.ที่ผมทำอะไรเกินตัวไปหน่อย

But through it all, when there was doubt ,
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันมีอุปสรรคอะไรมาทำให้ผมสะดุด

I ate it up and spit it out.
ผมก็จะกัดฟันแลกหมัดกับมัน

I faced it all and I stood tall ;
ผมเผชิญหน้ายืนสู้ไม่เคยถอยหนี

And did it my way
และจัดการกับมัน...ในแบบของผม


I’ve loved, I’ve laughed and cried.
ผมเคยมีรัก, ผมเคยหัวเราะ ผมเคยร่ำไห้

I’ve had my fill; my share of losing.
ผมเคยเปรมปรีดิ์....และ ผมก็เคยสัมผัสกับความสูญเสีย

And now, as tears subside,
และวันนี้ เมื่อน้ำตาเหือดแห้งลง

I find it all so amusing.
ผมกลับมองว่าทุกเรื่องที่ผ่านมามันช่างน่าขัน.....

To think I did all that;...
.เมื่อมานั่งคิดดูว่าผมได้ทำมันมาทั้งหมดแล้ว....

And may I say - not in a shy way,
...และขอผมบอกหน่อยเถอะ.
..ว่าที่ผมทำมานั้นมันไม่ใช่ในแบบขัดๆเขินๆเลย

No, oh no not me,
โอ้...ไม่...ไม่ใช่ผมแน่

I did it my way.
ผมทำในวิถีทางแบบของผม

For what is a man, what has he got?
ก็สำหรับชายคนหนึ่ง เขาจะมีอะไรเล่า?

If not himself, then he has not.
ถ้าเขาไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง นั่นก็เท่ากับเขาไม่มีอะไรเลย

To say the things he truly feels;
เพื่อที่จะพูดในสิ่งที่เขารู้สึกจริงๆ

And not the words of one who kneels.
ไม่ใช่คำพูดจากปากของผู้ยอมศิโรราบ

The record shows I took the blows –
ทุกอย่างบันทึกไว้ว่าผมรับมือได้กับทุกสิ่ง

And did it my way !
และจัดการมัน...ในสไตล์ของผม.....


Yes it was my way. ใช่แล้ว มันคือวิถีของผม....







My Way - Elvis Presley



My Way - Frank Sinatra My Way - Frank Sinatra My Way - Frank Sinatra

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น